วันจันทร์, 7 ตุลาคม 2567

ทำไมเพจ ถึงเร็วกว่าราชการในการแจ้งเตือนภัย?

เหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลันที่เชียงรายเมื่อเร็ว ๆ นี้ ไม่เพียงสร้างความเสียหายมหาศาล แต่ยังเผยให้เห็นปัญหาในระบบการสื่อสารและแจ้งเตือนภัยของหน่วยงานราชการ ขณะที่เพจเฟซบุ๊กท้องถิ่นกลับทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า เราลองมาพิจารณาประเด็นนี้กันให้ลึกซึ้งขึ้น

ความล่าช้าของระบบราชการ vs ความรวดเร็วของโซเชียลมีเดีย

ประชาชนเจ้าของร้านในตัวเมืองเชียงราย สะท้อนภาพที่น่าตกใจ:

“ไม่มีการเตือนภัยล่วงหน้าเลย ไม่ว่าจะเป็นหอกระจายเสียงหรือการกระจายข่าวสื่อสังคมออนไลน์”

แทนที่จะได้รับข้อมูลจากหน่วยงานราชการ ประชาชนต้องพึ่งพาการ “ช่วยเหลือกันเอง” ผ่านโซเชียลมีเดีย:

“เราก็เช็กข่าวจากเฟซบุ๊ก ดูโพสต์ของเพื่อนที่อยู่ทางต้นน้ำว่าน้ำมาเยอะแค่ไหน ถึงไหนแล้ว”

คำถามสำคัญ: ทำไมระบบราชการถึงล่าช้า?

  1. ขั้นตอนที่ซับซ้อนเกินไป? การตัดสินใจในระบบราชการอาจต้องผ่านหลายขั้นตอน ทำให้เกิดความล่าช้า
  2. ขาดเทคโนโลยีที่ทันสมัย? ระบบการแจ้งเตือนอาจไม่ได้ใช้เทคโนโลยีล่าสุดที่สามารถประมวลผลและส่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว
  3. ปัญหาการประสานงาน? อาจมีปัญหาในการสื่อสารระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ทำให้ข้อมูลไม่ถูกส่งต่ออย่างทันท่วงที
  4. ขาดการให้ความสำคัญ? ผู้มีอำนาจตัดสินใจอาจไม่ตระหนักถึงความสำคัญของการแจ้งเตือนที่รวดเร็ว

งบประมาณมหาศาล แต่ผลลัพธ์ยังน่าสงสัย

ที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือ เชียงรายได้รับงบประมาณในการแก้ไขและป้องกันน้ำท่วมสูงถึง 1,117 ล้านบาทในปี 2566 ซึ่งเป็นอันดับ 1 ของภาคเหนือ และอันดับ 6 ของประเทศ แต่กลับไม่เห็นผลในการป้องกันและแจ้งเตือนภัย

ประชาชนตั้งคำถามที่สะท้อนความรู้สึกของประชาชนหลายคน:

“มันเงินเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ แล้วงบไปป้องกันน้ำท่วมที่ไหน ตรงไหน? ไม่อยากจะเชื่อว่านี่คือผลการทำงานของงบที่เยอะขนาดนี้”

ความต้องการของประชาชน: ข้อมูลที่ชัดเจนและทันเวลา

สิ่งที่ประชาชนต้องการนั้นไม่ซับซ้อน แต่สำคัญอย่างยิ่ง:

“เราต้องการข้อมูลที่ช่วยบอกว่าต้องทำอย่างไร น้ำจะท่วมถึงบริเวณไหน สูงขึ้นประมาณเท่าไร ประชาชนต้องเตรียมตัวขนาดไหน เพื่อจะได้ไม่เสียหายขนาดนี้”

มุมมองของรัฐบาล: ยอมรับปัญหาแต่ยังขาดการแก้ไขที่เป็นรูปธรรม

รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ยอมรับว่าจะต้องมีการตรวจสอบระบบเตือนภัย แต่คำตอบยังคลุมเครือและขาดแนวทางแก้ไขที่ชัดเจน:

“แต่ธรรมชาติของมนุษย์ ไม่มีใครอยากออกจากเคหะสถาน จากบ้านเรือนของตัวเอง บางทีก็คิดว่าน่าจะเอาอยู่ คิดว่าน่าจะท่วมแค่ฟุตบาท แค่หน้าแข้ง ยังอยู่ได้”

บทสรุปและคำถามสู่อนาคต

เหตุการณ์นี้ชี้ให้เห็นว่า ระบบราชการยังต้องปรับปรุงอีกมากในด้านการสื่อสารและแจ้งเตือนภัย ในขณะที่เพจเฟซบุ๊กท้องถิ่นกลับทำหน้าที่ได้ดีกว่า เร็วกว่า และตรงกับความต้องการของประชาชนมากกว่า

คำถามสำคัญที่ต้องถาม:

  1. ทำไมระบบราชการถึงไม่สามารถใช้ประโยชน์จากโซเชียลมีเดียได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่ากับเพจท้องถิ่น?
  2. จะทำอย่างไรให้งบประมาณมหาศาลถูกใช้อย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน?
  3. ควรมีการปรับปรุงระบบการสื่อสารและแจ้งเตือนภัยอย่างไรบ้าง เพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ฉุกเฉิน?

ถึงเวลาแล้วที่หน่วยงานราชการจะต้องทบทวนและปรับปรุงระบบการทำงาน เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนได้อย่างแท้จริง โดยเฉพาะในยามวิกฤต

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
สรุปเชียงราย ระดมสมองหาทางออกหลังเกิดภัยพิบัติน้ำท่วมครั้งใหญ่ 2567
ดาวน์โหลดเอกสารประกาศอุทกภัย ประกอบการขอรับการช่วยเหลือเยียวยาน้ำท่วมเชียงราย 2567 ทุกอำเภอ ที่นี่
เทศบาลนครเชียงรายประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย/เขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) ในพื้นที่เทศบาลนครเชียงราย 2567
ผู้ว่าฯ เชียงราย ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำท่วม พร้อมให้กำลังใจผู้ประสบภัย
เช็กด่วน! ชื่อหมู่บ้านของคุณเสี่ยงน้ำท่วมหรือไม่?
รวมพิกัดจุดรับบริจาคและจุดช่วยเหลือน้ำท่วมประชาชนชาวเชียงราย