เผาหาป้อคิงหยัง เสียงจากเชียงราย 2566 วิกฤตฝุ่น PM2.5
ปัญหาฝุ่น pm 2.5 เชียงราย ปัญหาระดับชาติ ชาวเชียงรายเผชิญกับคุณภาพอากาศเลวร้ายอย่างหนักตั้งแต่ 26 มี.ค. ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 พุ่งสูงเกินค่ามาตรฐานทั้งของประเทศไทยและขององค์การอนามัยโลกหลายเท่าตัว
ประชาชนและสื่อมวลชนท้องถิ่นใน จ.เชียงราย ได้เผยแพร่ภาพท้องฟ้าขมุกขมัวจากฝุ่นควันและรายงานค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอนหรือ PM2.5 ซึ่งอยู่ในระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพตลอดทั้งวัน พร้อมกับเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ขณะที่ผู้ใช้โซเชียลมีเดียช่วยกันผลักดันแฮชแท็ก #saveแม่สาย และ #saveเชียงราย #เผาหาป้อคิงหยัง เพื่อให้สังคมตระหนักถึงความรุนแรงของสถานการณ์
กรมอนามัยแนะนำให้ประชาชนเฝ้าระวังและดูแลสุขภาพตนเองโดย 1) ลดระยะเวลาหรืองดการออกนอกอาคารโดยไม่จำเป็น หากออกนอกบ้านให้สวมหน้ากากป้องกันฝุ่น 2) งดการออกกำลังกายกลางแจ้ง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคทางเดินหายใจและโรคหัวใจ 3) อยู่ในบ้าน ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด หากทำห้องปลอดฝุ่นได้ ให้อยู่ในห้องปลอดฝุ่น 4) ดูแลสุขภาพและสังเกตอาการของเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว หากมีอาการรุนแรง เช่น แน่นหน้าอก หายใจไม่ออกให้รีบไปพบแพทย์
“เด็ก ๆ แรกเกิด ต้องมาพบเจอมลพิษแบบนี้ ปอดน้อง ๆ ก็เพิ่งเริ่มทำงานวันแรก ขนาดใช้เครื่องฟอกหลายตัว และยังมีเด็ก ๆ ในหอผู้ป่วยในอีก อย่างที่รู้เราใส่แมสก์ให้เด็กไม่ได้ แถมเรายังทำได้แค่บรรเทาด้วยเครื่องฟอกอากาศ แต่ภาวะแบบนี้ หมอก็ไม่รู้จะปกป้องดูแลเด็ก ๆ ยังไงแล้ว สงสารจังลูก” ทพ.วีระเขียนข้อความในโพสต์ดังกล่าว ซึ่งมีผู้แชร์ไปเป็นจำนวนมาก
ค่าฝุ่น PM2.5 ใน จ.เชียงราย ไต่ระดับขึ้นมาตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค. ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) รายงานการเพิ่มขึ้นของจุดความร้อนในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน โดย GISTDA ระบุว่า “สิ่งหนึ่งที่ต้องเฝ้าระวังที่มักจะมากับเหตุการณ์ไฟป่าและจุดความร้อนคือ PM2.5 สถานการณ์การจุดความร้อนจากประเทศเพื่อนบ้านอาจส่งผลให้เกิด PM2.5 ได้ในพื้นที่บริเวณชายแดนเนื่องจากได้รับอิทธิพจากประแสลมที่จะพัดผ่านเข้ามา”
พื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านยังคงมีแนวโน้มการสะสมฝุ่น PM2.5 เนื่องจากลมนิ่ง รวมทั้งการเผาทั้งในประเทศและจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งพบจุดความร้อนสะสมในเดือนมีนาคมสูงถึง 25,209 จุด ส่งผลให้ฝุ่น PM2.5 อยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ
อ้างอิง https://www.bbc.com/thai/articles/cje5ljp0rrxo