วันอาทิตย์, 8 กันยายน 2567

เจ้าของร้าน “ปังชา” เชียงราย ยันเปิดร้านตั้งแต่ปี 64

ดราม่าร้านปังชา! หนุ่มเจ้าของร้าน “ปังชา” ที่เชียงราย ยืนยันเปิดร้านตั้งแต่ปี 64 ไม่เคยมีเมนูน้ำแข็งใสชื่อปังชามาก่อน กลับถูกร้านใหญ่ใน กทม. ฟ้องเรียก 102 ล้านบาท

วันที่ 30 ส.ค. 66 ที่ร้านปังชา น้ำชาเชียงราย ตั้งอยู่ถนนพหลโยธินสายใน ใกล้สี่แยกประตูสลี เขตเทศบาลนครเชียงราย อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย นายวีระชาติ อายุ 36 ปี เจ้าของร้านยังคงเปิดร้านให้บริการจำหน่ายเครื่องดื่มประเภทชา กาแฟ น้ำแข็งใส ขนม ฯลฯ ตามปกติ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีเอกชนรายหนึ่งตั้งอยู่เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ ได้ส่งหนังสือไปถึงนายวีระชาติ หลายครั้งในช่วงปลายเดือน ก.ค. 2566 ขอให้ยุติการละเมิดเครื่องหมายชื่อร้าน “ปังชา” เพราะคล้ายคลึงกับชื่อทางการค้าที่บริษัทได้จดทะเบียนและเปิดร้านจำหนายอาหารอยู่ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลและห้างสรรพสินค้าชั้นนำอื่น ๆ ในกรุงเทพฯ รวมทั้งยังเรียกค่าเสียหายเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน 102 ล้านบาท

นอกจากนี้ในหนังสือยังแจ้งให้มีการขอโทษผ่านสื่อต่าง ๆ และทางหนังสืออย่างเป็นทางการ รวมทั้งให้แจ้งศูนย์การค้าเชียงราย ซึ่งเปิดจำหน่ายในชื่อร้านปังชาเช่นกันให้รับทราบด้วย ทั้งนี้ระบุให้นำเงินมาชำระค่าเสียหายภายใน 7 วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือควบคู่กับการยกเลิกใช้ชื่อ “ปังชา” ดังกล่าว และให้เลิกใช้คำว่า “ปังชา” ไปใช้เป็นชื่อเมนูน้ำแข็งใสด้วย หากยังเพิกเฉยจะคิดค่าเสียหายอีกวันละ 10,000 บาทต่อ 1 ร้านด้วย

ด้านนายวีระชาติ กล่าวว่า เดิมตนทำงานรับตกแต่งภายใน และต่อมาในปี 2564 ได้หันมาเปิดเป็นร้านจำหน่ายเครื่องดื่มประเภทชา กาแฟ นม ฯลฯ และยังมีขนมต่าง ๆ เช่น ขนมปังปิ้ง ฯลฯ และเพื่อให้ผู้คนจดจำได้ง่ายจึงใช้ชื่อว่า “ปังชา” ที่ถนนสนามบินไม่ห่างจากร้านปัจจุบันมากนัก โดยมีหลักฐานเป็นการโพสต์ในเฟซบุ๊กมาตั้งแต่ต้นแล้ว จากนั้นในเดือน ม.ค. 2566 นี้ ได้ย้ายไปยังถนนพหลโยธินเพื่อขยับขยายร้าน กระทั่งวันที่ 21 ก.ค. ที่ผ่านมาก็เริ่มมีหนังสือจากบริษัทดังกล่าว ส่งถึงตนถึง 3 ครั้ง โดยแจ้งว่าร้านตนละเมิดเครื่องหมาย “ปังชา” และยังมีร้านของญาติตนที่เปิดขายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอยู่ที่ศูนย์การค้าเชียงราย ด้วย ซึ่งตนแทบไม่อยากจะเชื่อเพราะชื่อนี้ก็เรียกขานกันอยู่ทั่วไปและอยากให้จำกันง่าย ๆ ว่าร้านเราขายน้ำชาและมีขนมปังปิ้งด้วยนั่นเอง

นายวีระชาติ กล่าวอีกว่า เดิมตนก็ไปขอจดทะเบียนการค้าโดยใช้ชื่อเดียวกันนี้ แต่บริษัทที่ปรึกษาแจ้งให้ออกแบบให้ชื่อสอดคล้องกับรูปภาพก่อน ทำให้ตนชะลอไป แต่ปรากฎว่ายังไม่ทันดำเนินการใด ๆ ก็ถูกเอกชนรายดังกล่าวแจ้งว่าละเมิดเครื่องหมายการค้า เรียกค่าเสียหายจำนวนมหาศาลทำให้ตนและครอบครัวเครียดอย่างมาก เพราะเราคงไม่มีเงินทองมากถึงขนาดนั้น และตนก็ไม่ได้มีเจตนาจะไปละเมิดแต่อย่างใดอีกด้วย กระนั้นเพื่อไม่ให้กระทบมากจึงได้เปลี่ยนชื่อร้านของญาติที่ศูนย์การค้าเชียงราย หลังจากได้รับหนังสือไม่เกิน 7 วันแล้ว แต่ยังคงเหลือที่ร้านของตนบนถนนพหลโยธินสายในที่ยังใช้ชื่อเดิมและเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป โดยระหว่างนี้ก็ปรึกษาทนายความว่าจะทำอย่างไร เพราะดูจากเอกสารที่บริษัทแจ้ง พบว่าเขาเพิ่งมาขอจดทะเบียนเมื่อปลายปี 2565 หลังจากที่ตนใช้ชื่อนี้ไปแล้ว และตนก็ไม่เคยใช้ชื่อ “ปังชา” มาใช้เป็นเมนูน้ำแข็งใส แต่ใช้คำว่า “ปังเย็น” แทนต่างหาก สิ่งสำคัญคือตนคงไม่มีเงินทองมากมายไปจ่ายให้ถึง 102 ล้านบาท หรือปรับวันละ 10,000 บาท อย่างแน่นอน

ที่มา https://www.chiangmainews.co.th/social/3060951/