รมว.วัฒนธรรมตามงานเบียนนาเลเชียงราย ศิลปินเตรียมจัดขบวนโหมโรงโชว์อัตลักษณ์ วิถีชีวิต ประเพณี ชาติพันธุ์ ผสาน Carnival art 19 พฤศจิกาฯ นี้ ก่อนเปิดงาน 9 ธ.ค. 66-30 เม.ย. 67 คาดเงินสะพัดเหนือตอนบน 3 หมื่นล้าน
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.กระทรวงวัฒนธรรม ได้ลงพื้นที่ติดตามการเตรียมจัดงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale Chiang Rai 2023 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9 ธ.ค. 2566-30 เม.ย. 2567 โดยได้ประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ห้องประชุมแทนคุณแผ่นดิน ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย เมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา
ก่อนเดินทางไปดูหอศิลป์ร่วมสมัยเมืองเชียงราย ตั้งอยู่บ้านสันตาลเหลือง หมู่ 1 ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางของงานและอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติชาวเชียงรายได้ลงทุนก่อสร้างไว้อย่างงดงาม
นายเสริมศักดิ์กล่าวว่า แม้จะเหลือเวลาอีกเพียงประมาณ 1 เดือน หน่วยงานต่างๆ ใน จ.เชียงรายร่วมมือกันเป็นอย่างดี ส่วนความคืบหน้านั้นหากเป็นการให้คะแนนก็ให้ถึง A บวก จึงคาดว่างานจะมีความเรียบร้อยด้วยดี ข้อดีของงานมหกรรมนี้คือศิลปินที่มาจากหลายประเทศที่จะได้ศึกษาเรียนรู้ผลงานซึ่งกันและกัน
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผู้สนใจในศิลปะทั้งนักเรียน นักศึกษา ฯลฯ ที่ไม่ต้องเดินทางไปดูไกลถึงต่างประเทศและยังสามารถดูผลงานที่จะเก็บไว้ในพื้นที่ตลอดไปอีกด้วย รวมถึงเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจการค้าและการท่องเที่ยวและเกิดซอฟต์เพาเวอร์กระจายออกไปอีกด้วย
ด้านอาจารย์สุวิทย์ ใจป้อม นายกสมาคมขัวศิลปะ จ.เชียงราย เปิดเผยว่า ก่อนการจัดงานจะได้มีการจัดขบวนศิลปะร่วมสมัย “Chiang Rai 2023 Art Carnival” จากตัวแทนศิลปินและชุมชน 18 อำเภอทั่วเชียงราย ในวันที่ 19 พ.ย.นี้ ซึ่งอาจารย์เฉลิมชัยและศิลปินขัวศิลปะ ออกแบบขบวนที่จะแสดงออกถึงแนวคิด อัตลักษณ์ วิถีชีวิต ประเพณี กลุ่มชาติพันธุ์ ผ่านประติมากรรมร่วมสมัยผสมผสานกับ Carnival art ซึ่งมีเพียงหนึ่งเดียวในประเทศไทย เพื่อสร้างการรับรู้และเฉลิมฉลองการเป็นเจ้าภาพในการจัดงานภายใต้แนวคิด “เปิดโลก” หรือ The open world
ขบวนจะเริ่มตั้งแต่โรงเรียนสามัคคีวิทยาคมไปตามถนนบรรพปราการผ่านหอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งเป็นเวทีกลางและไปสิ้นสุดที่สวนตุงและโคมนครเชียงราย จากนั้นจะย้ายไปจัดแสดงที่ลานประติมากรรม 18 อำเภอ ภายในสวนไม้งามริมน้ำกก ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย จนถึงวันที่ 30 เม.ย. 2567
งาน Thailand Biennale ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 3 ของประเทศไทยต่อจาก จ.กระบี่ และ จ.นครราชสีมา ภายในงานแบ่งเป็น 3 กิจกรรมหลัก คือ นิทรรศการแสดงผลงานของศิลปินรับเชิญจำนวน 60 คน จาก 21 ประเทศทั่วโลก เฉพาะของประเทศไทยมีจำนวน 22 คน ศาลาจัดแสดงงานหรือพาวิเลียนโดยศิลปินและองค์กรศิลปะทั้งในและต่างประเทศ กว่า 10 พาวิเลียน และกิจกรรมพิเศษคู่ขนาน เช่น ภาพยนตร์ การแสดง ดนตรี ฯลฯ
ตลอดระยะเวลา 5 เดือนของการจัดงาน เจ้าหน้าที่คาดว่าจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจโดยเฉพาะการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะมีไม่น้อยกว่า 5 ล้านคน มีการจ้างงานกว่า 8,000 อัตรา ผู้ประกอบการและชุมชนได้รับประโยชน์ 561 ชุมชน มีเงินหมุนเวียนในเชียงราย รวมถึงกลุ่มภาคเหนือตอนบนรวมกันไม่น้อยยกว่า 30,000 ล้านบาท