กรณีการไม่ไปใช้สิทธิ เลือกตั้ง66 เนื่องจากมีเหตุอันควรที่ไม่สามารถเดินทางไปใช้สิทธิลงคะแนนได้นั้น กกต.ได้เปิดช่องทางให้ดำเนินการผ่านช่องทางออนไลน์ด้วยตัวเอง หรือดำเนินการทำหนังสือยื่นคำร้อง สามารถดำเนินการแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ตามวิธีการดังต่อไปนี้
แจ้งเหตุไม่ไปเลือกตั้งผ่านทางแอปพลิเคชั่น Smart Vote
ขั้นตอนการตรวจสอบสิทธิเลือกตั้ง
- เข้าแอปฯ Smart Vote กดที่เมนู “เลือกตั้ง ส.ส.”
- เลือกเมนู ECT Report ตรวจสอบสิทธิแจ้งเหตุไม่ไปใช้สิทธิ
- เลือก “แจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้ง และกดยืนยัน
- จากนั้น กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน
ช่องทางดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Smart Vote
– ระบบ iOS
แจ้งเหตุไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง 2566 เนื่องด้วยเหตุอันสมควร ประกอบด้วย
- มีกิจธุระจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องเดินทางไปพื้นที่ห่างไกล
- เจ็บป่วย ไม่สามารถเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้
- เป็นผู้พิการหรือทุพพลภาพ หรือผู้สูงอายุและไม่สามารถเดินทางไปใช้สิทธิได้
- เดินทางออกนอกราชอาณาจักรและมิได้แจ้งความประสงค์ขอใช้สิทธิเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร
- มีถิ่นที่อยู่ห่างไกลจากที่เลือกตั้งเกินกว่า 100 กิโลเมตร
- มีเหตุสุดวิสัยหรือเหตุอื่นที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนด
กรณีไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง : จะถูกตัดสิทธิทางการเมือง ตามที่กฎหมายได้กำหนดในเรื่องการเสียสิทธิทางการเมืองไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 มาตรา 35 ดังนี้
- ไม่มีสิทธิร่วมลงชื่อ ยื่นคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
- ไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น หรือสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา
- ไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกเป็นกำนัน ผู้ใหญ่บ้านตามกฎหมายว่าด้วยลักษณะปกครองท้องที่
- ขาดคุณสมบัติดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการการเมืองและข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมือง ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการรัฐสภา
- ตำแหน่งรองผู้บริหารท้องถิ่น
- นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด
- เลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น
- ผู้ช่วยเลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น
- ประธานที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น
- ที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น
- คณะที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่นตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
- ทุกตำแหน่ง ที่ผ่านการลงคะแนนเลือกตั้ง
โดยข้อห้ามทั้งหมดที่ว่ามานี้ จะมีระยะเวลากำหนดอยู่ที่ 2 ปี ซึ่งหากว่าครั้งต่อๆไปผู้มีสิทธิเลือกตั้งยังไม่ยอมไปใช้สิทธิ ก็จะถูกข้อห้ามดังกล่าวเหมือนเดิมและจะบวกเพิ่มไปอีก 2 ปี