เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี กรุ๊ป ได้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่เรียกว่า “ระบบตรวจสอบย้อนกลับ” (Traceability System) เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นควันข้ามพรมแดนจากการทำเกษตรกรรมในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะการเผาพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของฝุ่น PM2.5 ในภาคเหนือของไทย
ระบบตรวจสอบย้อนกลับ: เทคโนโลยีก้าวล้ำแก้ปัญหาฝุ่นข้ามพรมแดน
ระบบตรวจสอบย้อนกลับนี้จะทำหน้าที่ติดตามแหล่งที่มาของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ซีพีรับซื้อจากเกษตรกรชาวเมียนมา โดยเกษตรกรที่จะขายข้าวโพดให้ซีพีจะต้องมาลงทะเบียน และระบุพิกัดพื้นที่เพาะปลูก เพื่อให้ระบบสามารถตรวจจับจุดความร้อนในไร่ข้าวโพดนั้นๆ ว่ามีการเผาพื้นที่หรือไม่ นอกจากนี้ ยังสามารถตรวจสอบย้อนกลับไปดูว่าพื้นที่ปลูกเดิมเคยเป็นพื้นที่ป่าหรือไม่ ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานของสหภาพยุโรป (EUDR-EU Deforestation free Regulation) ที่ห้ามทำลายป่า
ประกาศไม่รับซื้อจากเกษตรกรที่ทำลายป่า
เพื่อเป็นการเด็ดขาดกับเกษตรกรที่มีการเผาพื้นที่ทางการเกษตรและบุกรุกป่า ซีพีจึงได้ประกาศไม่รับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากเกษตรกรรายดังกล่าว โดยระบบตรวจสอบย้อนกลับจะทำหน้าที่ช่วยตรวจสอบและยืนยันความถูกต้องของแหล่งที่มาของผลผลิต เพื่อให้มั่นใจว่าเกษตรกรไม่ได้มีการเผาพื้นที่หรือบุกรุกป่า
เป้าหมายสู่ความยั่งยืน: ลดฝุ่นควันข้ามพรมแดนได้ 10%
แม้ว่าระบบตรวจสอบย้อนกลับจะช่วยลดปัญหาฝุ่นควันข้ามพรมแดนจากประเทศเมียนมาได้เพียง 10% ในช่วงแรกเริ่ม แต่ซีพีมั่นใจว่าในอนาคตจะสามารถทำได้มากกว่านี้ โดยมีเป้าหมายสำคัญในการสร้างความโปร่งใส ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมของภาคเอกชน และการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมเกษตรที่มีความยั่งยืน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นทางการค้าระหว่างประเทศ
ระบบตรวจสอบย้อนกลับกับเกษตรกรไทย
นอกจากการนำระบบตรวจสอบย้อนกลับไปใช้กับเกษตรกรชาวเมียนมาแล้ว ซีพียังได้นำระบบนี้มาใช้กับเกษตรกรในประเทศไทย 100% ตั้งแต่ปี 2559 เพื่อเสริมสร้างความยั่งยืนและความโปร่งใสในห่วงโซ่อุปทานเกษตรกรรม
ที่มา https://www.springnews.co.th