วันอังคาร, 14 มกราคม 2568

ชายแดนไทย-พม่า-ลาว-จีนตอนใต้ ผ่านด่านเชียงรายเติบโตต่อเนื่อง แม้ภายในพม่ายังท้าทาย

ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรที่จังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ที่ผ่านมา นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เดินทางไปประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ด่านศุลกากรแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพื่อรับทราบสถานการณ์การค้าชายแดนในพื้นที่ ซึ่งพบว่า มูลค่าการค้าผ่านด่านศุลกากรในจังหวัดเชียงรายยังคงเติบโตต่อเนื่อง แม้ว่าภายในประเทศพม่ายังคงมีความท้าทายอยู่บ้าง

ด่านศุลกากรในจังหวัดเชียงรายเติบโตสูงต่อเนื่อง

จากข้อมูลที่นำเสนอ พบว่า มูลค่าการค้าผ่านด่านศุลกากรแม่สาย ด่านศุลกากรเชียงแสน และด่านศุลกากรเชียงของ ในจังหวัดเชียงรายมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2567 มีมูลค่ารวมถึง 107,328.76 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2566 ที่มีมูลค่า 105,464.24 ล้านบาท และปี 2565 ที่มีมูลค่า 80,298.98 ล้านบาท

สัดส่วนการส่งออกและนำเข้า


เมื่อพิจารณาในรายละเอียดของแต่ละด่านศุลกากร พบว่า:

  • ด่านศุลกากรแม่สาย มีมูลค่าการส่งออก 16,367.84 ล้านบาท และมูลค่าการนำเข้า 3,668.55 ล้านบาท
  • ด่านศุลกากรเชียงแสน มีมูลค่าการส่งออก 10,162.72 ล้านบาท และมูลค่าการนำเข้า 616.47 ล้านบาท
  • ด่านศุลกากรเชียงของ มีมูลค่าการส่งออก 54,651.40 ล้านบาท และมูลค่าการนำเข้า 21,861.78 ล้านบาท

จากข้อมูลดังกล่าว จะเห็นได้ว่า ประเทศไทยมีดุลการค้าที่ดีจากการค้าชายแดนผ่านทั้ง 3 ด่านในจังหวัดเชียงราย โดยสินค้าส่งออกส่วนใหญ่เป็นน้ำมันเชื้อเพลิง สินค้าอุปโภคบริโภค ขณะที่สินค้านำเข้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าทางการเกษตร และถ่านหิน

ความท้าทายจากประเทศเพื่อนบ้าน

แม้ว่าการค้าชายแดนผ่านจังหวัดเชียงรายจะมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังคงมีความท้าทายอยู่บ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศเพื่อนบ้านอย่าง สปป.ลาว ที่ยังไม่อนุญาตให้มีการใช้รถบรรทุกหนัก 500 ตัน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประชุมและเจรจาเพื่อให้กลับมาใช้รถบรรทุกหนัก 500 ตันตามที่ลงทะเบียนไว้

ส่วนในประเทศพม่านั้น แม้จะยังคงมีสถานการณ์ภายในที่ยังไม่เสถียร แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์มั่นใจว่า จะต้องมีการปรับปรุงและพัฒนาให้เหมาะสม เพื่อให้การค้าขายกับประเทศไทยสามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่นมากขึ้น

โดยสรุป การค้าชายแดนผ่านจังหวัดเชียงรายยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีบางความท้าทายจากประเทศเพื่อนบ้านบ้าง แต่ก็เชื่อมั่นว่าจะสามารถแก้ไขและปรับปรุงให้เหมาะสมได้ในอนาคตอันใกล้ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้การค้าและเศรษฐกิจในพื้นที่ชายแดนเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งต่อไป