วันจันทร์, 24 มีนาคม 2568

โนโรไวรัสระบาดในจีน: ผู้เชี่ยวชาญแนะวิธีป้องกันและรักษาอย่างไร

โนโรไวรัสระบาดในจีน
โนโรไวรัสระบาดในจีน

ความเป็นมาและความสำคัญ
ในช่วงเวลานี้ มีรายงานว่ามีการพบผู้ติดเชื้อ ‘โนโรไวรัส (Norovirus)’ เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในโรงเรียนหลายแห่งของประเทศจีน อาทิ เมืองเวินโจว, ส่านซี, ยูนนาน และหูเป่ย จนทำให้หลายคนกังวลต่อสถานการณ์ดังกล่าว เราจึงได้พูดคุยกับ นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา อดีตหัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้เกี่ยวกับโรคนี้

รู้จัก ‘โนโรไวรัส’

นพ.ธีระวัฒน์ให้ความเห็นว่า โรคนี้ไม่ได้น่ากังวลเลย เนื่องจากมีการพบการระบาดของโรคนี้ไม่เพียงแค่ในประเทศจีน แต่ยังมีรายงานในประเทศไทย สหรัฐฯ และทั่วโลกด้วย ผู้ติดเชื้อจะมีอาการท้องเสีย อ้วก และอาเจียน ซึ่งส่วนมากจะมีอาการอยู่ราว 1 – 3 วัน

ลักษณะเฉพาะของโนโรไวรัส

  1. โนโรไวรัสเป็นโรคที่เรารู้จักกันมานาน และไม่ได้มีระบาดแค่ในประเทศจีน แต่ในประเทศสหรัฐฯ ไทย รวมถึงประเทศอื่นๆ ก็มีโรคนี้อยู่แล้ว
  2. ไวรัสชนิดนี้ไม่ได้มีเปลือกไขมันหุ้ม ฉะนั้น การฆ่าไวรัสไม่อาจทำได้ด้วยเจลแอลกอฮอล์ แต่ต้องล้างด้วยน้ำและสบู่เหมือนไวรัสโรคมือ เท้า ปาก
  3. ไวรัสชนิดนี้มักระบาดในกลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ฉีดวัคซีน mRNA ในช่วงการระบาดของโควิด – 19 อาจมีความเสี่ยงสูงขึ้นด้วย

วิธีป้องกันและรักษา

วิธีป้องกัน:

  • กินร้อน ช้อนกลาง และล้างมือ (ด้วยสบู่) เป็นวิธีป้องกันที่ดีที่สุด
  • ไม่จำเป็นต้องห่างคนอื่นมากนัก เพราะโรคนี้ไม่ได้ติดต่อทางระบบทางเดินหายใจ

วิธีรักษา:

  • การรักษาโรคโนโรไวรัสมักจะเป็นวิธีรักษาตามอาการ เช่น จ่ายยาแก้อาเจียน หรือให้สารละลายเกลือแร่/น้ำเกลือ
  • คุณหมอแนะนำให้ใช้สมุนไพรไทยรักษาเบื้องต้น โดยเฉพาะฟ้าทะลายโจรและขมิ้นชัน ซึ่งมีงานวิจัยยืนยันประสิทธิภาพ

สรุป

ในภาพรวม โรคโนโรไวรัสไม่ใช่เรื่องที่ควรกังวลมากนัก เนื่องจากเป็นโรคที่เคยพบได้ทั่วไปในหลายประเทศ และมีวิธีป้องกันและรักษาที่ไม่ยุ่งยาก ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ปฏิบัติตามมาตรการพื้นฐานเพื่อลดความเสี่ยง และใช้สมุนไพรไทยเป็นทางเลือกในการรักษา หากเกิดอาการ