สำนักงานสาธารณสุขรัฐแมสซาชูเซตส์ได้ประสานงานกับศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ (CDC) และทีมสาธารณสุขท้องถิ่นเพื่อติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยรายนี้ พร้อมยืนยันว่า เคสดังกล่าว “ไม่ก่อความเสี่ยงต่อสาธารณชน” โดยผู้ป่วยได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล และอาการไม่น่าเป็นห่วง
โรค ‘ฝีดาษลิง’ เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส พบครั้งแรกในลิงทดลองในปี พ.ศ.2501 พบมากในแอฟริกากลางและตะวันตก และโรคนี้ยังเกิดประปรายในบางพื้นที่ของทวีปแอฟริกาตั้งแต่ ปี พ.ศ.2513 เป็นต้นมา ซึ่งคนก็สามารถติดเชื้อนี้ได้ โดยในปี พ.ศ.2546 ได้เกิดการระบาดของโรคนี้ในคนที่ติดเชื้อจากแพรรีด็อกในสหรัฐอเมริกาด้วย
โดยโรคนี้สามารถพบได้ในสัตว์หลายชนิด โดยเฉพาะสัตว์ตระกูลลิง และสัตว์ฟันแทะ เช่น หนู กระรอก กระต่าย เป็นต้น โดยคนก็สามารถติดโรคนี้จากการสัมผัสโดยตรงกับเลือด สารคัดหลั่ง หรือตุ่มหนองของสัตว์ที่ติดเชื้อ ถูกสัตว์ที่มีเชื้อกัด หรือการกินเนื้อสัตว์ที่มีเชื้อที่ปรุงสุกไม่เพียงพอ เป็นต้น ซึ่งการแพร่เชื้อจากคนสู่คนอาจเกิดขึ้นได้จากการสัมผัสใกล้ชิด แต่มีโอกาสน้อยมากในการแพร่จากคนสู่คน
สำหรับผู้ที่ติดเชื้อจะแสดงอาการของโรคหลังติดเชื้อประมาณ 12 วัน อาการป่วยคือ มีไข้ หนาวสั่น ปวดหัว เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต ปวดกล้ามเนื้อ ปวดหลัง และอ่อนเพลีย จากนั้นประมาณ 1-3 วัน จะมีผื่นขึ้นบริเวณแขนขา และอาจจะเกิดบนหน้าและลำตัวได้ด้วย โดยผื่นจะกลายเป็นตุ่มหนอง ในระยะสุดท้ายตุ่มหนองจะเป็นสะเก็ดแล้วหลุดออกมา ซึ่งจะมีอาการป่วยประมาณ 2-4 สัปดาห์ และผู้ป่วยส่วนใหญ่จะหายเองได้
ล่าสุด ขณะนี้ประเทศอังกฤษพบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงแล้ว 7 ราย ประเทศโปรตุเกสพบผู้ติดเชื้อแล้ว 6 ราย และสเปนกำลังรอผลยืนยันอีก 8 ราย ซึ่งผู้ติดเชื้อทั้งหมดเป็นผู้ชาย และไม่รู้ว่าไปติดเชื้อมาได้อย่างไร โดยผู้เชี่ยวชาญหวั่น อาจเป็นการระบาดของเชื้อไวรัสฝีดาษลิง ซึ่งเป็นโรคระบาดที่เกิดขึ้นยากเป็นครั้งแรกในโลก
แต่ยังไม่มีการรายงานว่ามีการระบาดในประเทศไทย ยังไม่ต้องกังวล
อ้างอิง ข่าวช่องวัน