วันอาทิตย์, 23 มีนาคม 2568

วัคซีนไฟเซอร์ ต้องผสมน้ำเกลือก่อนฉีด จริงหรือไม่

02 ส.ค. 2021
1433

วัคซีนไฟเซอร์ จะมาในรูปแบบของเหลวขาวขุ่นแบบเข็มข้น ในหนึ่ง vial จะประกอบไปด้วยสารพันธุกรรม mRNA ที่ห่อหุ้มในอนุภาคไขมัน ปริมาตร 0.45 ml ก่อนน้ำมาฉีดจะต้องน้ำวัคซีนมาเจือจางในน้ำเกลือ หรือ โซเดียมคลอไรด์ ปริมาตร 1.8 ml จากนั้นผสมทั้งสองให้เข้ากันแล้วจึงนำไปแบ่งฉีด ให้คนได้ 6 คน แต่ละคนจะได้วัคซีนคนละ 0.3 ml หรือ 1 โดส

ในโซเชียลมีเดียมีการเผยแพร่เอกสารกำกับยาภาษาไทยของบริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด บางช่วงบางตอนที่เกี่ยวข้อง ระบุว่า ชื่อผลิตภัณฑ์ โคเมอร์เนตี (Comirnaty) ชนิดเข้มข้นสำหรับกระจายตัวสำหรับฉีด วัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอ สำหรับป้องกันโรคโควิด-19 (นิวคลีโอไซด์ที่ถูกดัดแปลง) ใน 1 โดส (0.3 มิลลิลิตร) ประกอบด้วยตัวยาสำคัญ คือ วัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอโควิด-19 ห่อหุ้มด้วยอนุภาคไขมันขนาดนาโน บรรจุอยู่ 30 ไมโครกรัม ยานี้บรรจุในขวดแก้วสำหรับใช้หลายครั้ง และจะต้องเจือจางก่อนใช้ ใน 1 ขวด (0.45 มิลลิลิตร) บรรจุวัคซีนสำหรับฉีด 6 โดส โดสละ 0.3 มิลลิลิตรหลังเจือจางแล้ว

สำหรับการละลายก่อนการเจือจาง ขวดวัคซีนสำหรับใช้หลายครั้งถูกเก็บในตู้แช่แข็งและจะต้องละลายจากการแช่แข็งก่อนเจือจาง จะต้องนำขวดวัคซีนที่ถูกแช่แข็งไปวางไว้ในสภาวะที่มีอุณหภูมิ 2 องศาเซลเซียส ถึง 8 องศาเซลเซียสเพื่อให้ละลายจากการแช่แข็ง บรรจุภัณฑ์ที่มีขวดวัคซีนบรรจุอยู่ 195 ขวดอาจจะใช้เวลาละลายจากการแช่แข็งนาน 3 ชั่วโมง หรืออีกทางหนึ่งสามารถวางขวดวัคซีนที่แช่แข็งให้ละลายไว้ได้ที่อุณหภูมิสูงถึง 30 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 30 นาทีสำหรับใช้ทันที

ทั้งนี้ สามารถเก็บขวดวัคซีนที่ยังไม่ได้เปิดใช้ได้นานถึง 1 เดือน ที่อุณหภูมิ 2 องศาเซลเซียสถึง 8 องศาเซลเซียสนี้ อาจทำการขนส่งได้ แต่ต้องใช้ระยะเวลาไม่เกิน 12 ชั่วโมง

นำขวดวัคซีนที่ละลายจากการแช่แข็งแล้วไปวางในอุณหภูมิห้องและคว่ำขวดวัคซีนขึ้นลงช้าๆ อย่างเบามือ 10 ครั้งก่อนที่จะเจือจาง ห้ามเขย่า

ก่อนเจือจาง วัคซีนชนิดกระจายตัวที่ละลายจากการแช่แข็งแล้วอาจมีอนุภาคอสัณฐานทึบแสงสีขาวถึงสีออกเหลืองอ่อนได้

การเจือจาง จะต้องเจือจางวัคซีนที่ละลายจากการแช่แข็งแล้วในขวดเดิมด้วยสารละลายโซเดียมคลอไรด์* 9 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร (0.9%) ชนิดฉีดปริมาตร 1.8 มิลลิลิตร โดยใช้เข็มฉีดยาชนิด 21 gauge หรือเข็มฉีดยาที่มีปลายแคบกว่า และใช้เทคนิคปราศจากเชื้อ

ปรับความดันในขวดวัคซีนให้สมดุลก่อนถอนเข็มฉีดยาออกจากจุกยางของขวดวัคซีน โดยดูดอากาศปริมาตร 1.8 มิลลิลิตรเข้าไปในกระบอกฉีดยาเปล่าสำหรับเจือจาง

คว่ำขวดวัคซีนชนิดกระจายตัวที่เจือจางแล้วขึ้นลงช้าๆ อย่างเบามือ 10 ครั้ง ห้ามเขย่า

วัคซีนที่เจือจางแล้วควรมีลักษณะเป็นวัคซีนชนิดกระจายตัวที่มีสีขาวถึงสีออกเหลืองอ่อน (off-white) ซึ่งไม่มีอนุภาคที่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า ห้ามใช้วัคซีนที่เจือจางแล้วหากเห็นว่ามีอนุภาคหรือเปลี่ยนสี

ควรจดบันทึกวันที่และเวลาที่ถูกต้องไว้บนขวดวัคซีนที่เจือจางแล้ว หลังจากเจือจาง ให้เก็บวัคซีนไว้ที่อุณหภูมิ 2 องศาเซลเซียส ถึง 30 องศาเซลเซียส และใช้วัคซีนภายใน 6 ชั่วโมงรวมเวลาการขนส่งใดๆ

ห้ามแช่แข็งหรือเขย่าวัคซีนชนิดกระจายตัวที่เจือจางแล้ว หากนำไปแช่เย็น ควรทิ้งวัคซีนชนิดกระจายตัวที่เจือจางแล้วให้มีอุณหภูมิห้องก่อนนำไปใช้

การเตรียมวัคซีนโคเมอร์เนตีที่ขนาดยา 0.3 มิลลิลิตรสำหรับใช้หนึ่งครั้ง หลังจากเจือจาง จะมีวัคซีนบรรจุในขวดวัคซีน 2.25 มิลลิลิตร ซึ่งจะสามารถดูดวัคซีนจากขวดวัคซีนได้ 6 โดส โดสละ 0.3 มิลลิลิตร

โดยใช้เทคนิคปราศจากเชื้อ ทำความสะอาดจุกยางของขวดวัคซีนโดยใช้แผ่นฆ่าเชื้อสำหรับทำความสะอาดสำหรับใช้ครั้งเดียว

ดูดโคเมอร์เนตี 0.3 มิลลิลิตรออกจากขวดวัคซีน

ควรใช้กระบอกฉีดยาและ/หรือเข็มฉีดยาที่มีปริมาตรยาตกค้างต่ำ (low-dead-volume) เพื่อให้สามารถดูดวัคซีนออกมาจากขวดวัคซีนได้ 6 โดส กระบอกฉีดยาและเข็มฉีดยาที่มีปริมาตรยาตกค้างต่ำควรมีปริมาตรยาตกค้างไม่ต่ำกว่า 35 ไมโครลิตร

หากใช้กระบอกฉีดยาและเข็มฉีดยาแบบมาตรฐาน วัคซีนหนึ่งขวดอาจมีปริมาตรไม่เพียงพอสำหรับการดูดวัคซีนโดสที่หก

ขนาดวัคซีนสำหรับฉีดแต่ละโดสต้องมีปริมาตร 0.3 มิลลิลิตร

หากปริมาณวัคซีนที่เหลืออยู่ในขวดวัคซีนไม่เพียงพอสำหรับการฉีดวัคซีนเต็มโดสที่ขนาด 0.3 มิลลิลิตร ให้ทิ้งขวดวัคซีนและวัคซีนใดๆ ที่เหลือในขวด

ทิ้งวัคซีนใดๆ ที่ไม่ได้ใช้ภายใน 6 ชั่วโมง หลังจากเจือจาง

การกำจัดยา ควรทิ้งผลิตภัณฑ์ยาที่ไม่ได้ใช้หรือของเสียใดๆ ตามข้อกำหนดของท้องถิ่น

หมายเหตุ : * สารละลายโซเดียมคลอไรด์ ข้อมูลจาก pobpad.com ระบุว่า เป็นสารน้ำที่มีส่วนผสมของเกลือและน้ำ โดยจะประกอบไปด้วยสารละลายโซเดียมคลอไรด์ (Sodium Chloride: NaCl) ในความเข้มข้น 0.9 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งคล้ายคลึงกับความเข้มข้นของโซเดียมในเลือดและน้ำตา บางครั้งอาจเรียกน้ำเกลือว่าสารละลายไอโซโทนิก เนื่องจากมีความสมดุลกับน้ำในเซลล์ร่างกาย จึงเหมาะในการนำไปทำความสะอาดอวัยวะบางส่วนที่ใช้น้ำเกลือได้ โดยผลิตภัณฑ์นี้สามารถหาซื้อได้ง่ายและมีราคาถูก

ที่มา mgronline อ้างอิง บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด