ต่อใบขับขี่ใช้เอกสารอะไรบ้าง ?
งานใบอนุญาตขับรถ
Q : ทำใบขับขี่ใหม่ใช้เอกสารอะไร
A : 1. บัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริง 2. ใบรับรองแพทย์
Q : ทำใบขับขี่ใหม่ใช้เวลาทำกี่วัน
A : ใช้เวลา 2 วัน วันแรก อบรมเป็นเวลา 5 ชั่วโมง วันที่ 2 ทดสอบข้อเขียน ทดสอบขับรถ
Q : ต่อใบขับขี่ 5 ปี เป็น 5 ปี ต้องอบรมหรือไม่
A : อบรมเป็นเวลา 1 ชั่วโมง สามารถอบรมออนไลน์ผ่าน https://www.dlt-elearning.com/ แล้วนำผลการอบรมไปยื่นได้ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศไทย ภายใน 90 วัน หรือมาเข้ารับการอบรมที่สำนักงานขนส่งก็ได้
Q : ต่อใบขับขี่ 5 ปี เป็น 5 ปีใช้หลักฐานอะไร
A : 1. บัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริง 2. ใบขับขี่ฉบับเดิม (ถ้ามี)
Q : ใบขับขี่สูญหายหายต้องแจ้งความหรือไม่
A : ไม่ต้องแจ้งความฯ ใช้บัตรประชาชนฉบับจริงมาขอใบแทนสูญหายได้ที่สำนักงานขนส่ง
Q : ใบขับขี่ตลอดชีพแบบเก่าถ้ามาขอทำใบขับขี่แบบใหม่จะได้แบบตลอดชีพเหมือนเดิมหรือไม่
A : ใบขับขี่ตลอดชีพแบบเดิม(กระดาษ) สามารถมาขอใบแทนชำรุดและได้ใบขับขี่ตลอดชีพเหมือนเดิมแบบใหม่
Q : กรณีเปลี่ยนชื่อ/สกุล ต้องใช้เอกสารอะไร
A : ใช้บัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริง เนื่องจากระบบจะดึงข้อมูลจากบัตรประชาชนฉบับปัจจุบัน ที่เปลี่ยนชื่อ /สกุล ใหม่จากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์
Q : อายุ 60 ปีต่อใบขับขี่ได้หรือไม่
A : ต่อได้ไม่จำกัดอายุ
Q : เปลี่ยนชนิดใบขับขี่จาก บ.2 เป็น ท.2 ต้องทำอย่างไร
A : นำบัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริง ใบรับรองแพทย์ และใบขับขี่ฉบับเดิม มายื่นขอเปลี่ยนชนิดใบขับขี่จาก บ.2 เป็น ท.2
เจ้าหน้าที่จะส่งไปสอบประวัติพิมพ์ลายนิ้วมือ เมื่อตรวจสอบประวัติผ่านจึงจะเปลี่ยนประเภทได้
Q : คนพิการตาบอด 1 ข้างทำใบขับขี่ได้หรือไม่
A : ได้ โดยต้องมีใบรับรองแพทย์จากจักษุแพทย์ยืนยันว่า ตาข้างที่ไม่พิการหรือบอด มีสมรรถภาพดี นำมายื่นติดต่อกับเจ้าหน้าที่
เพื่อเข้ารับการทดสอบสมรรถภาพร่างกายก่อนดำเนินการตามระเบียบต่อไป
Q : คนต่างด้าวทำใบขับขี่ได้หรือไม่
A : ได้ โดยเข้ารับการอบรมและทดสอบตามระเบียบฯ และใช้เอกสารดังนี้
- หนังสือเดินทาง (Passport)
- ใบสำคัญถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย หรือ ทะเบียนบ้าน ท.ร.38 ข. หรือใบอนุญาตทำงาน (Work Permit)
- ใบรับรองแพทย์
Q : คนพิการแขนขาด 1 ข้าง ทำใบขับขี่ได้หรือไม่
A : ได้ โดยให้เข้ารับการทดสอบความสามารถของร่างกายในการควบคุมบังคับรถก่อน หากเห็นว่าสามารถควบคุม บังคับรถได้อย่างปลอดภัย จึงจะดำเนินการต่อไปตามระเบียบฯ
Q : ทำใบขับขี่สากล ใช้เอกสารอะไร ค่าธรรมเนียมเท่าไร
A : 1. บัตรประจำตัวประชาชน
2. ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล (ชนิด 5 ปี) หรือใบอนุญาตขับรถตลอดชีพ
3. หนังสือเดินทาง (Passport)
4. รูปถ่าย ขนาด 2 นิ้ว 2 รูป
5. ค่าธรรมเนียม 505.- บาท
Q : ต่อใบขับขี่ใช้ใบรับรองแพทย์หรือไม่
A : 1. ต่อใบขับขี่ชนิดชั่วคราว (2 ปี) ใช้ใบรับรองแพทย์ และบัตรประจำตัวประชาชน ใบขับขี่ฉบับเดิม(ถ้ามี)
2. ต่อใบขับขี่ชนิดส่วนบุคคล (5 ปี) ไม่ต้องใช้ใบรับรองแพทย์ ใช้บัตรประจำตัวประชาชน และใบขับขี่ฉบับเดิม
(ถ้ามี)
3. ตั้งแต่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไปต้องใช้ใบรับรองแพทย์ทุกกรณีทั้งใหม่/ต่อ/เปลี่ยน
Q : ใบขับขี่หายต้องแจ้งความหรือไม่
A : ถ้าเป็นใบขับขี่รถยนต์ /รถจักรยานยนต์ ไม่ต้องแจ้งความ สามารถมาดำเนินการขอใบแทนที่สำนักงานขนส่งได้
ทุกแห่ง กรณีเป็นใบขับขี่รถขนส่งต้องแจ้งความก่อนมาดำเนินการที่สำนักขนส่งได้ทุกแห่ง
งานทะเบียนและภาษีรถ
Q : ต่อภาษีรถใช้อะไรบ้าง
A : 1. คู่มือจดทะเบียนหรือสำเนาคู่มือการจดทะเบียน
2. พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535
3. ใบรับรองการตรวจสภาพรถ (สำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน
หรือรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ที่จดทะเบียนมาแล้วตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไป หรือรถจักรยานยนต์ที่จดทะเบียนมาแล้ว
ตั้งแต่ 5 ปี ขึ้นไป)
4. หนังสือรับรองการตรวจทดสอบถังแก๊ส (สำหรับรถยนต์ที่ติดตั้งเชื้อเพลิงแก๊ส LPG / CNG)
Q : โอนกรรมสิทธิ์รถใช้อะไรบ้าง
A : 1. คู่มือจดทะเบียน
2. ใบคู่มือจดทะเบียนรถ
3. บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง ทั้งผู้โอนและผู้รับโอน
4. หนังสือมอบอำนาจพร้อมสำบัตรประจำตัวประชาชนผู้รับมอบกรณีผู้โอน และ/หรือผู้รับโอนมิได้มา
ดำเนินการด้วยตัวเอง
5. นำรถมาตรวจสภาพที่สำนักงานขนส่ง
Q : รถขาดภาษีเกิน 1 ปี ต้องตรวจที่ไหน
A : ตรวจสภาพรถ ณ ตรอ. หรือ สำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ
Q : รถขาดภาษีเกิน 3 ปี ต้องทำอย่างไร
A : 1. ชำระภาษีที่ค้างทั้งหมด และคืนแผ่นป้ายทะเบียนเก่า
2. นำรถเข้าตรวจสภาพ
3. พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535
4. จดทะเบียนรถใหม่
Q : จดทะเบียนรถใหม่มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง
A : 1. นำรถมาตรวจสภาพ
2. เอกสารหนังสือแจ้งจำหน่าย
3. พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535
4. บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงของเจ้าของรถ
5. หนังสือมอบอำนาจพร้อมสำบัตรประจำตัวประชาชนผู้รับมอบ/ผู้รับมอบ กรณีมิได้มาดำเนินการด้วยตัวเอง
Q : การแจ้งเปลี่ยน ชื่อ ที่อยู่ ใช้อะไรบ้าง
A : 1. ใบคู่มือจดทะเบียนรถ
2. บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงของเจ้าของรถ/หนังสือรับรองบริษัท (กรณีนิติบุคคล)
3. หลักฐานการเปลี่ยนชื่อ
Q : การแจ้งเปลี่ยนสีรถ มีขั้นตอนอย่างไร
A : 1. นำรถเข้าตรวจสภาพ (ดำเนินการได้ทั่วประเทศ)
2. ใบเสร็จเปลี่ยนสี ไม่เกิน 7 วัน
3. ใบคู่มือจดทะเบียนรถ
4. บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงของเจ้าของรถ/หนังสือรับรองบริษัท (กรณีนิติบุคคล)
Q : การแจ้งเปลี่ยนเครื่องรถ มีขั้นตอนอย่างไร
A : 1. นำรถเข้าตรวจสภาพ (ดำเนินการได้ทั่วประเทศ)
2. หลักฐานการแจ้งจำหน่ายเครื่อง
3. ใบคู่มือจดทะเบียนรถ
4. บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงของเจ้าของรถ/หนังสือรับรองบริษัท (กรณีนิติบุคคล)
Q : การแจ้งเสริมแหนบ มีขั้นตอนอย่างไร
A : 1. นำรถเข้าตรวจสภาพ (ดำเนินการได้ทั่วประเทศ)
2. ใบรับรองความมั่นคงแข็งแรงของรถจากวิศวกร
3. ใบเสร็จการเสริมแหนบ
4. บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงของเจ้าของรถ/หนังสือรับรองบริษัท (กรณีนิติบุคคล)
Q : การขอเลขทะเบียนรถ ใช้อะไรบ้าง
A : 1. บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงของเจ้าของรถ
2. หนังสือแจ้งจำหน่ายรถ
Q : การแจ้งย้ายรถปลายทาง มีขั้นตอนอย่างไร
A : 1. ยื่นเรื่องแจ้งย้ายปลายทาง
2. ใบคู่มือจดทะเบียนรถ (ฉบับจริง)
3. บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงของเจ้าของรถ
4. อีก 3 วันทำการ นำรถเข้าตรวจสภาพ พร้อมคืนแผ่นป้ายทะเบียนเดิม และทำเรื่องย้ายเข้า
Q : การแจ้งย้ายรถต้นทาง มีขั้นตอนอย่างไร
A : 1. ยื่นเรื่องย้ายรถออกไปต่างจังหวัด
2. ใบคู่มือจดทะเบียนรถ (ฉบับจริง)
3. บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงของเจ้าของรถ
4. เมื่อแจ้งย้ายรถออกเรียบร้อยแล้วจะต้องดำเนินการแจ้งย้ายรถเข้าภายใน 15 วัน นับแต่วันที่แจ้งย้าย
Q : การขอแผ่นป้ายทะเบียนรถใหม่ (ชำรุด/สูญหาย) ใช้หลักฐานอะไรบ้าง
A : 1. บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงของเจ้าของรถ
2. ใบคู่มือจดทะเบียนรถ (ฉบับจริง)
Q : การทำหนังสืออนุญาตระหว่างประเทศ ใช้หลักฐานอะไรบ้าง
A : 1. บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงของเจ้าของรถ
2. ใบคู่มือจดทะเบียนรถ (ฉบับจริง)
3. ดำเนินการได้ทั่วประเทศ
Q : การทำซื้อแผ่นป้ายระหว่างประเทศ ใช้หลักฐานอะไรบ้าง
A : 1. บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงของเจ้าของรถ
2. ใบคู่มือจดทะเบียนรถ (ฉบับจริง)
3. ดำเนินการได้ ณ สำนักงานขนส่งจังหวัดที่จดทะเบียน
Q : การแจ้งไม่ใช้รถ ใช้หลักฐานอะไรบ้าง
A : 1. ใบคู่มือจดทะเบียนรถ (ฉบับจริง)
2. บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงของเจ้าของรถ
3. แผ่นป้ายทะเบียนรถ
Q : ช่องทางการเสียภาษีประจำปี สำหรับรถยนต์ มีช่องทางใดบ้าง
A : 1. การเสียภาษีรถทั่วไทยได้ทุกสำนักงาน (ไม่ว่ารถนั้นจะจดทะเบียนที่จังหวัดใดก็ตาม)
2. การเสียภาษี ณ ที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่ง
3. การเสียภาษี ณ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทุกแห่ง
4. การเสียภาษี ณ ห้างสรรพสินค้า โครงการ “ช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี (Shop Thru for Tax)”
5. บริการรับชำระภาษีแบบ เลื่อนล้อต่อภาษี ( Drive Thru for Tax)
6. บริการรับชำระภาษี ณ เคาน์เตอร์เซอร์วิสทั่วประเทศ
อ้างอิง
https://www.dlt.go.th/site/loei/m-about/10355/