ชาวเชียงรายเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งระยะยาวจากสารหนูในน้ำกกและน้ำสายมากที่สุด โดยเฉพาะโรคมะเร็งผิวหนัง ซึ่งสารหนูเป็นสารก่อมะเร็งที่สะสมในร่างกายได้เมื่อสัมผัสหรือบริโภคในระยะยาว นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงต่อโรคระบบประสาท เช่น อาการชาที่ปลายมือปลายเท้า และโรคที่เกี่ยวกับระบบหัวใจ เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ รวมถึงอาการทางผิวหนังที่เรียกว่า “ไข้ดำ” ซึ่งผิวหนังจะหนาและมีสีคล้ำผิดปกติ
โรคไข้ดำ คือ โรคไข้ดำแดง (Scarlet Fever) ซึ่งเป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียที่เกิดจากเชื้อสเตรปโตคอคคัสกรุ๊ปเอ (Group A Streptococcus) โรคนี้พบได้บ่อยในเด็กอายุระหว่าง 5-15 ปี โดยผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูง เจ็บคอ และมีผื่นสีแดงขึ้นตามผิวหนังเกือบทั่วร่างกาย ผื่นมักมีลักษณะเป็นเม็ดหยาบ ๆ คล้ายกระดาษทราย มักไม่ขึ้นที่ใบหน้าแต่มีลักษณะหน้าแดง ริมฝีปากซีด และลิ้นเปลี่ยนเป็นสีแดงบวมคล้ายผลสตรอว์เบอร์รี่
อาการอื่น ๆ ได้แก่ ปวดศีรษะ ต่อมน้ำเหลืองที่คอโต คลื่นไส้ อาเจียน และหนาวสั่น โรคนี้ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น โรคไข้รูมาติกและหน่วยไตอักเสบเฉียบพลัน
การรักษาหลักคือการใช้ยาปฏิชีวนะ เช่น เพนนิซิลิน หรืออิริโทรมัยซิน พร้อมกับการพักผ่อนและดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อบรรเทาอาการ โรคนี้ติดต่อได้โดยการสัมผัสสารคัดหลั่งจากผู้ป่วย เช่น น้ำมูก น้ำลาย ผ่านทางการหายใจหรือสัมผัสโดยตรง
สรุปคือ ไข้ดำ (ไข้ดำแดง) เป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดผื่นแดงทั่วร่างกาย มีไข้สูงและเจ็บคอ ต้องได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนรุนแรง
กลุ่มเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังคือเด็ก หญิงตั้งครรภ์ และผู้สูงอายุ เนื่องจากสารหนูและโลหะหนักอื่นๆ เช่น ตะกั่วที่ปนเปื้อนในแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย อาจสะสมในระบบห่วงโซ่อาหารผ่านการบริโภคปลาน้ำจืดในพื้นที่
นอกจากนี้ ประชาชนที่สัมผัสน้ำโดยตรง เช่น ลงเล่นน้ำ อาจเกิดผื่นคันและระคายเคืองผิวหนัง ซึ่งเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการสัมผัสสารพิษ
สรุปได้ว่า โรคที่ชาวเชียงรายเสี่ยงเป็นมากที่สุดจากสารหนูในน้ำกกและน้ำสาย คือ โรคมะเร็งผิวหนังและโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาทและหัวใจ รวมถึงอาการผิวหนังผิดปกติจากการสัมผัสสารหนูโดยตรง
อ้างอิง
[1] https://www.thaipbs.or.th/news/content/350954
[2] https://www.youtube.com/watch?v=H9vSCV13EmQ
[3] https://www.thaipbs.or.th/news/content/352357
[4] https://www.youtube.com/watch?v=ccQngacC1MY
[5] https://www.igreenstory.co/waterpollution/
[6] https://www.bbc.com/thai/articles/cev44g1ed7go
[7] https://www.tiktok.com/@springonline/video/7497110576770911505
[8] https://www.youtube.com/watch?v=G_puwtesGS4