
ค่าว จ๊อย ซอ จัดเป็นวรรณกรรมพื้นบ้านล้านนา เป็นที่นิยมแพร่หลายในเขตจังหวัดภาคเหนือของประเทศไทยที่ใช้ภาษาล้านนา เป็นภาษาประจำถิ่นวรรณกรรมพื้นบ้านแบ่งประเภทตามลักษณะการ ถ่ายทอดหรือการสื่อสารต่อกัน สามารถแบ่งประเภทได้ดังนี้
ประเภทวาจา คือวรรณกรรมที่ใช้วิธีการถ่ายทอด หรือสื่อสารต่อกันด้วยภาษาพูดโดยการบอกเล่าสู่กันฟัง การสนทนาซักถาม การอบรมสั่งสอน รวมถึงการขับร้องเป็นท่วงท่าทำนองต่าง ๆ ได้แก่ นิทานบทเพลง เช่น ฮ่ำ จ๊อย และซอ น้าษา สำนวนคำพังเพย หรือคำคมต่าง ๆ ปริศนาคำทาย คำเกี้ยวพาราสีของหนุ่มสาว หรือกำอู้บ่าวสาว หรือ กำค่าวกำเครือ เป็นต้น
ประเภทลายลักษณ์คือวรรณกรรมที่ใช้ถ่ายทอดหรือสื่อสารต่อกันด้วยภาษาเขียนโดยมีการบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร วรรณกรรมพื้นบ้านภาคเหนือในอดีตมักจะบันทึกด้วย อักษรธรรม และตัวอักษรฝักขาม มีเนื้อหาและรูปแบบของคำประพันธ์ที่หลากหลาย เช่น วรรณกรรมร้อยแก้วและวรรณกรรมร้อยกรอง คือ โคลง ร่าย และค่าว หรือค่าวซอเป็นต้น
ค่าว จ๊อย ซอ เกิดจากการคิดค้น ความคิด สติปัญญาของผู้คนในอดีตที่อาศัยอยู่ตามชนบทสิ่งเหล่านี้ในปัจจุบันนิยมเรียกกันว่า ภูมิปัญญาชาวบ้าน หรือในภาษาถิ่นตรงกับคำว่า “ภูมิผญ๋า” ภูมิปัญญาเป็นเรื่องที่สั่งสมมาแต่อดีตเป็นเรื่องของการจัดความสัมพันธ์ระหว่างคนกับคนคนกับธรรมชาติสิ่งแวดล้อมคนกับสิ่งเหนือธรรมชาติโดยผ่านกระบวนการทางจารีตประเพณีวิถีชีวิตการทำมาหากินและพิธีกรรมต่างๆ ภูมิญญ่ำหรือประหยาเป็นความรู้ที่ได้รับการถ่ายทอดออกมาเป็นวรรณกรรมมุขปาฐะ มักแสดงออกเป็นคำพูดโต้ตอบกันเช่นการแอ่วสาวการถ้องซอ(การโต้ตอบกันระหว่างช่างซอชายหญิง) ค่าว จ๊อย หรือเป็นคำสอนที่ปฏิบัติตามกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ
ค่าว เป็นคำประพันธ์ที่มีแบบแผนของชาวล้านนามีฉันทลักษณ์ที่ระบุจำนวนคำในวรรค และ สัมผัสระหว่างวรรค สรุปเป็นคำกล่าวสั้นๆ “สามตัวเหลียว เจ็ดตัวเตียว บาทหลัง บาทหน้า”
จ๊อย เป็นวิธีขับลำนำโดยใช้ค่าวเป็นเนื้อหาหลักบางทีเรียกว่าจ๊อยค่าววิธีขับจ๊อยมักจะดำเนิน ท่วงทำนองไปอย่างช้าๆมีการเอื้อนอาจมีเครื่องดนตรีบรรเลงคลอประกอบหรือไม่ก็ได้ลีลาและทำนองจ้อยที่นิยมใช้ ได้แก่ โก่งเฮียวบ่ง ม้าย่ำไฟ และทำนองวิงวอน
ซอ เป็นเพลงพื้นบ้านที่ใช้ค่าวเป็นเนื้อหาหลักแต่ฉันทลักษณ์ของค่าวจะเปลี่ยนแปลงไปตามทำนองอาจสั้นลงหรือยาวขึ้นและมีการบังคับวรรณยุกต์แตกต่างกันไป
อ้างอิง งานกิจการสตรีและผู้สูงอายุ ฝ่ายส่งเสริมสวัสดิ์การสังคม กองสวัสดิการสังคม เทศบาลเมืองเขลางค์นคร