ข้อสอบใบขับขี่ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ 2565

0
245

ข้อสอบใบขับขี่ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ 2565

1. ผู้ขับขี่ต้องขับรถให้ห่างจากรถคันหน้าเท่าไร

ก.ในระยะที่จะสามารถหยุดรถได้โดยปลอดภัยเมื่อมีความจำเป็น

ข.ไม่น้อยกว่า 2 เมตร

ค.ไม่น้อยกว่า 1 เมตร

ง.ไม่น้อยกว่า 3 เมตร

2. ผู้ขับขี่ต้องการจะเลี้ยวซ้ายต้องขับรถในช่องเดินรถด้านซ้ายก่อนถึงทางเลี้ยวกี่เมตร

ก.ไม่น้อยกว่า 15 เมตร

ข.ไม่น้อยกว่า 20 เมตร

ค.ไม่น้อยกว่า 25 เมตร

ง.ไม่น้อยกว่า 30 เมตร

3. ผู้ขับขี่ต้องเปิดไฟหน้าหรือไฟท้ายรถ ให้รถคันอื่นเห็นได้ในระยะไม่น้อยกว่าเท่าใด

ก.150 เมตร

ข.100 เมตร

ค.60 เมตร

ง.120 เมตร

4. ในการขับรถสวนทางกัน ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร

ก.แซงเข้าไปในช่องเดินรถประจำทางได้

ข.ให้ขับรถชิดด้านซ้าย

ค.ในทางที่มีสิ่งกีดขวางอยู่ข้างหน้าไม่ต้องหยุดรอให้รถที่สวนมาผ่านไปได้

ง.ในทางแคบที่ไม่อาจสวนกันได้ ผู้ขับรถคันที่เล็กกว่า ต้องหยุดชิดด้านซ้ายให้รถคันที่ใหญ่กว่าไปก่อน

5. ห้ามมิให้ผู้ขับขี่รถแซงเพื่อขึ้นหน้ารถคันอื่นขณะที่มีหมอก.ฝุ่น ฝน หรือควัน จนไม่อาจเห็นทางข้างหน้าได้ในระยะ เท่าใด

ก.60 เมตร

ข.90 เมตร

ค.70 เมตร

ง.80 เมตร

6. บริเวณใดห้ามขับรถแซงรถคันอื่น

ก.ทางโค้งรัศมีแคบ

ข.ในกรณีที่ทางเดินรถด้านซ้ายมีสิ่งกีดขวาง

ค.150 เมตร จากทางร่วมทางแยก

ง.แซงด้านซ้ายในขณะที่มีรถรอเลี้ยวขวา

7. บริเวณใดสามารถกลับรถได้

ก.ทางเดินรถที่มีเครื่องหมายห้ามกลับรถ

ข.บริเวณบนสะพาน

ค.ระยะ 150 เมตร จากทางราบของเชิงสะพาน

ง.เขตปลอดภัย

8. เมื่อผู้ขับขี่พบเครื่องหมาย “เลี้ยวซ้ายผ่านตลอด” ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร?

ก.ลดความเร็วของรถลงและเลี้ยวซ้ายผ่านไปได้ทันที

ข.หยุดรอจนกว่าจะได้รับสัญญาณไฟเขียวจึงเลี้ยวซ้ายไปได้

ค.หยุดรอให้คนข้ามถนนและรถที่มาจากทางด้านขวามือขับผ่านไปก่อนแล้วจึงเลี้ยวซ้ายผ่านไป

ง.เลี้ยวซ้ายผ่านไปได้ทันที

9. ผู้ใดไม่มีหน้าที่ให้สัญญาณจราจรตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก.พ.ศ.2522

ก.ผู้ขับขี่รถยนต์

ข.พนักงานจราจร

ค.ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์

ง.คนเดินเท้า

10. ผู้ขับขี่ปฏิบัติตามข้อใดไม่ถูกต้อง

ก.ลดความเร็วเมื่อถึงวงเวียน

ข.ลดความเร็วเมื่อถึงที่คับขัน

ค.จอดรถบริเวณทางร่วมทางแยก

ง.ลดความเร็วเมื่อเห็นคนกำลังข้ามทาง

11. บริเวณใดแซงได้

ก.ทางร่วมทางแยก

ข.สะพานเดินรถทางเดียว

ค.ทางโค้งรัศมีแคบ

ง.บนพื้นทางที่มีเครื่องหมายจราจรให้แซงได้

12. เมื่อจะเปลี่ยนช่องทางหรือแซงรถทุกครั้งต้องปฏิบัติอย่างไร

ก.รีบเปลี่ยนช่องทางโดยเร็ว

ข.ต้องให้สัญญาณไฟหรือสัญญาณแตร

ค.แซงขึ้นหน้าแล้วเหยียบเบรกทันที

ง.รีบเร่งเครื่องแซงโดยเร็ว

13. บริเวณใดจอดรถได้

ก.ที่มีป้ายห้ามหยุดรถ

ข.ในอุโมงค์

ค.ทางร่วมทางแยก

ง.ลานจอดรถในห้างสรรพสินค้า

14. การขับรถตามข้อใดปฏิบัติได้ถูกต้อง

ก.ขับรถลักษณะผิดปกติวิสัย

ข.แซงรถในอุโมงค์

ค.ขับรถในลักษณะกีดขวางการจราจร

ง.ขับรถเร็วไม่เกินอัตราที่กฎหมายกำหนด

15. เมื่อถึงทางรถไฟและมีรถไฟกำลังแล่นผ่าน ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไร

ก.หยุดรถให้ห่างจากทางรถไฟไม่น้อยกว่า 5 เมตร

ข.ขับรถผ่านไปโดยเร็ว

ค.ให้เสียงสัญญาณแตรเตือนและขับผ่านไปได้

ง.หยุดรอสัญญาณไฟและเปิดไฟฉุกเฉิน

16. บริเวณใดใช้สัญญาณเสียงแตรได้

ก.โรงเรียน

ข.สถานที่ราชการ

ค.สวนสาธารณะ

ง.โรงพยาบาล

17. เมื่อเกิดอุบัติเหตุผู้ขับขี่หลบหนีจะมีผลอย่างไร

ก.ไม่มีผล เพราะไม่ใช่ฝ่ายผิด

ข.ให้สันนิษฐานว่าผู้นั้นเป็นผู้กระทำผิด

ค.มีผลให้เป็นฝ่ายถูก

ง.จะได้รับการกันไว้เป็นพยาน

18. สัญญาณเสียงแตรใช้ได้เมื่อใด

ก.ใช้ได้เมื่อรถคันหน้าขับช้า

ข.ใช้ได้ตามสะดวก

ค.ใช้ตลอดเวลา

ง.ใช้ได้เมื่อจำเป็นเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ

19. ขณะขับขี่รถต้องเว้นระยะห่างรถคันหน้าเท่าใด

ก.ในระยะที่ปลอดภัย

ข.13 เมตร

ค.50 เมตร

ง.3 ช่วงตัวรถ

20. ก่อนเลี้ยวรถต้องเข้าช่องทางที่จะเลี้ยวและเปิดไฟเลี้ยวก่อนเลี้ยวรถไม่น้อยกว่ากี่เมตร

ก.3 เมตร

ข.30 เมตร

ค.10 เมตร

ง.15 เมตร

21. ผู้ขับรถที่ดื่มสุราเมื่อวัดระดับแอลกอฮอล์ในลมหายใจจะต้องไม่เกินเท่าใด

ก.ไม่เกิน 60 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น

ข.ไม่เกิน 70 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น

ค.ไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น

ง.ไม่เกิน 80 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น

22. ขณะขับรถตรวจพบแอลกอฮอล์ในร่างกายเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดมีโทษอย่างไร

ก.จำคุกไม่เกิน 3 เดือนหรือปรับตั้งแต่ 1,000 ถึง.50,000 บาท

ข.จำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับตั้งแต่ 5,000 ถึง.20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ค.ปรับไม่เกิน 5,000 บาท

ง.ปรับไม่เกิน 10,000 บาท

23. ในเขตกรุงเทพ เขตเมืองพัทยา หรือเขตเทศบาล ต้องขับรถด้วยความเร็วเท่าไร

ก.ไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ข.ไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ค.ไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ง.ไม่เกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

24. นอกเขตกรุงเทพ เขตเมืองพัทยา หรือเขตเทศบาล ต้องขับรถด้วยความเร็วเท่าไร

ก.ไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ข.ไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ค.ไม่เกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ง.ไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

25. ในการให้สัญญาณไฟเลี้ยว จะต้องให้ผู้ขับรถคันอื่นเห็นได้ในระยะเท่าไร

ก.ไม่น้อยกว่า 10 เมตร

ข.ไม่น้อยกว่า 15 เมตร

ค.ไม่น้อยกว่า 60 เมตร

ง.ไม่น้อยกว่า 30 เมตร

26. ผู้ขับขี่ซึ่งจะเลี้ยวรถจะต้องให้สัญญาณมืออย่างไร

ก.ให้สัญญาณมือด้วยมือซ้ายเท่านั้น

ข.ให้สัญญาณมือได้ทั้งมือซ้ายและมือขวา

ค.ไม่ต้องให้สัญญาณมือใด ๆ ทั้งสิ้น

ง.ให้สัญญาณมือด้วยมือขวาเท่านั้น

27. บริเวณทางร่วมทางแยกและมีเครื่องหมายห้ามกลับรถแต่เจ้าพนักงานจราจรอนุญาตให้กลับรถได้ผู้ขับขี่ ต้องปฏิบัติอย่างไร

ก.กลับรถได้

ข.กลับรถได้ถ้าไม่มีเครื่องหมายห้ามกลับรถ

ค.กลับรถไม่ได้

ง.กลับรถได้ถ้าไม่ใช่ทางร่วมทางแยก

28. ผู้ขับขี่ต้องการกลับรถต้องปฏิบัติอย่างไร

ก.ขับรถช่องทางไหนก็ได้

ข.ดูป้ายจราจรที่อนุญาตให้กลับรถและเข้าช่องทางให้ถูกต้อง

ค.เข้าช่องทางที่มีลุกศรบนพื้นถนนให้ตรงไป

ง.กลับรถที่บริเวณเส้นทะแยงเหลือง

29. ข้อใดปฏิบัติถูกต้อง

ก.รถจักรยานยนต์ต้องขับในช่องเดินรถด้านซ้ายสุด

ข.รถบรรทุกคนโดยสารต้องขับในช่องเดินรถด้านขวาสุด

ค.รถบรรทุกสิ่งของต้องขับในช่องเดินรถด้านขวาสุด

ง.การเปลี่ยนช่องเดินรถไปทางด้านขวาหรือซ้ายไม่ต้องดูกระจกด้านซ้ายหรือขวา

30. ในช่องทางเดินรถตั้งแต่สองช่องทางขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ต้องปฏิบัติอย่างไร

ก.ต้องขับรถชิดด้านขวาสุด

ข.ต้องขับรถชิดด้านซ้ายสุด

ค.ต้องขับรถคล่อมเส้นแบ่งช่องทางเดินรถ

ง.ต้องขับรถอยู่ในช่องทางที่ให้ขับตรงไป

ให้คะแนนเนื้อหานี้
[Total: 1 Average: 5]