วันจันทร์, 24 มีนาคม 2568

ชาวนาเหนือจี้รัฐดันราคาข้าวให้ได้ 10 บาท ฮึ่มชุมนุมใหญ่ 20

ภาคเหนือ – ชาวนาภาคเหนือล้มทั้งยืน. สัปดาห์เดียวโดนคลื่นใต้น้ำเกี่ยวสดทั้งจากทุ่ง – หน้าลานดังกล่าวแค่คุยกันอย่างละ 4-6 บาทปัญหายังขายยื่นคำขาด 20 รายงานนี้ต้องเห็นราคา 10 บาทต่อ ฯ ไม่กิโลเช่นนั้นมีชุมนุมใหญ่

เครือข่ายสภาเกษตรกรหลายจังหวัดภาคเหนือได้เริ่มเคลื่อนไหวเรียกร้องทวงถามหัวเรื่อง: การประกันราคาในห้างหุ้นส่วนจำกัดคุณข้าวฤดูเก็บเกี่ยวปี 2563-2564 รวมทั้งให้พยุงราคาข้าวเหนียวและข้าวเจ้า ความชื้นไม่เกิน 25% ได้ให้ราคากิโลกรัม ละ 10 บาทเนื่องจากปัจจุบันราคาหน้าลานลดลดเกียร์ละ 6 บาทขณะที่ราคาหน้ายุ้งแมลง – ริมทุ่งซื้อกันที่ 4-5 บาทต่อกิโลฯ

นายธีธวัชคำเงินผู้ชุมนุมเชียงรายที่นำเครือ บริษัท เข้ายื่นหนังสือต่อนายประภัสสรปรัชญ์สกุลผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายและเจ้าหน้าที่พาณิชย์ต่างจังหวัดเพื่อให้แก้ปัญหาระบุว่าขอให้ทางในตำแหน่งผู้ยากไร้ ภาคเหนือตอนบน 2 และประสานงานต่างประเทศ 8 จังหวัดภาคเหนือร่วมกันต่อรองกับผู้ประกอบการค้าข้าวเพิ่มรับซื้อในราคาที่สูงกว่านี้และให้เช่างานอื่น ๆ เกี่ยวกับงานให้มากขึ้นเช่นธนาคารเพื่อการเกษตรจังหวัดกาญจนบุรี ( ธ.ก.ส. ) ที่ปรึกษาโครงการขายฝากต่างประเทศที่มีอยู่ต่างจังหวัดในศาลากลางจังหวัด

ด้านนายกฤษณะคำปุกผู้ควบคุมระดับตำบลอ. พานกล่าวว่าสัปดาห์ก่อนราคาข้าวจะซื้อขายกันในขัดละ 14 บาท แต่กำเนิดว่ากันวันเดียวกลับลดฮวาลง 6 บาทและยังมีการปล่อยข่าวอีกว่า ราคาจะลดลงลดลงอีกทำให้ชาวนาต้องขายข้าวกันมากขึ้นเพราะกลัวราคาจะถูกลงอีกตอนนี้มีการเดินทางแล้วราว 10-20% ของพื้นที่เพาะปลูกทั้งต่างจังหวัด

“ ชาวนามีหน่วยงานในการทำนาน้ำมัน ละ 6 บาทพอราคาลงมาฮวบฮาบแบบนี้ก็เหมือนเดิมยังไม่ได้ขายปรารถนาให้รัฐและเครือข่ายช่วยเหลือชาวนาโดยเราจะรอคำตอบการช่วยเหลือขั้นต่ำวันที่ 20 เดือนนี้หากยังแก้ไขไม่ได้ก็จะพา กันมาชุมนุมอีกครั้ง”

ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จ. เชียงรายได้แจ้งต่อสายงานว่าจะนำข้อเรียกร้องของหน่วยงานซึ่งรวมถึงข้อผิดพลาดอื่น ๆ เช่นการพูดคุยรับซื้อของผู้ประกอบการในสำนักงานที่คุมขังผู้ซื้อจากต่างประเทศให้ผู้ประกอบการรถ เกี่ยวและกับข้าวต่าง ๆ ร่วมแก้ไขปัญหาราคาข้าวรวมถึงเรื่องการเจรจากับผู้ประกอบการเข้าสู่การประชุมในวันที่ 14 ต. ค. นี้โดยจะเชิญภาคเอกชนเข้าร่วมด้วยเพื่อจะแก้ไขปัญหาให้ก่อนวันที่ 20 ต. ค. นี้

ขณะที่แพร่นายขวัญยืนจินดาคำผัญกำหนด 1 ต. ปงป่าหวายอ. เด่นชัย, นายชัยเดชสุฤทธิ์ผู่ตุ่น 3 ต. ไทรย้อยอ. เด่นชัย, นายประสงค์เก็บชมและนายถาวรพอใจได้พากันเข้าพบนางศิริวรรณกองคดีแกนนำชาลี ณ สำนักสมาชิกสภาผู้แทนต. ตู้อ. เมืองเพื่อขอความช่วยเหลือแก้ไขปัญหาราคาข้าวกันเช่น

โดยระบุว่าคุมเคยข้าวสาลี (ข้าวเหนียว) ขายให้โรงสีเมื่อ 24 ก.ย. 63 ในราคาทวิฯ ละ 11 บาท แต่ในเดือน ต.ค. 63 โรงสีได้ค่าลดราคารับซื้อลดราคาคุยกัน 7 บาทและทำทีไม่หยุยอีกโดยพูดว่าข้าวมีความชื้นสูงมีข้าวที่ยังไม่แก่จัดระเบียบไตร่ตรองราคาลดลงอีกชาวบ้านชนต่อการทุจริตซึ่ง เมื่อวันที่ 9 ต. ค. เคยรวมตัวกันไปร่วมหนังสือต่อศักดิ์ศรีเด่นชัยแล้ว

เช่นเดียวกับ บริษัท ชาวนาต่างจังหวัดเชียงใหม่ที่พากันเข้ายื่นหนังสือผ่านทางการเกษตรต่างจังหวัดเรียกร้องผู้ว่าราชการจังหวัดนั่งเรือรวมถึงรมว. พาณิชย์ให้หาทางไกลราคาข้าวดิบเถื่อนโดยระบุว่าราคาข้าวเมล็ดข้าวเตี้ย สดอยู่ที่สลัดละ 7.50 บาทข้าวมันอยู่ที่อัตราละ 30 บาทหากถึงเวลาจะอยู่ที่ราคา 5-6 บาททางชาวนาเรียกร้องให้รัฐบาลราคาข้าวผัดธัญพืชสดอยู่ที่เขื่อนละ 10 บาทไม่กำหนดความชื้น

แนะนำผู้ว่าฯ เชียงใหม่ได้นัดแก้ไขปัญหาราคาข้าวโดยจะเชิญชวนชาวนาอำเภอละ 3 คน, โรงสีข้าว, ท่าข้าว, นัดหมาย ธ.ก.ส. และสถานที่ต่างจังหวัดเชียงใหม่ในวันที่ 15 ตุลาคมที่จะถึงนี้

แหล่งข่าว https://mgronline.com